ใครเคยทำเลิกซะ เผยเรื่องสยอง ข้าวหล่นพื้น อย่าเก็บมากินอีกเด็ดขาด รู้แล้วจะเปลี่ยนความคิดไปตลอดกาล
เชื่อว่าทุกคนคงเคยเก็บข้าว หรืออาหารที่หล่นมาทานอย่างแน่นอน บ้างก็ชอบกล่าวว่าอาหารที่หล่นไปแค่ไม่นานเชื่อโรคยังไม่ทันมา กินต่อได้บ้าง หรือเก็บทานเพราะเสียดายอาหารบ้าง แต่คุณอาจเคยได้ยินมาว่า คนโบราณมักสอนว่าอาหารที่ตกแล้วห้ามหยิบขึ้นมาทาน แต่ก็ไม่เคยบอกตรงๆว่าเพราะเหตุใด วันนี้เรามีเรื่องราวสุดสยองของการเก็บอาหารที่ตกพื้นมาแบ่งปัน โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของ คุณรัช โดยได้เปิดเผยว่า "ตั้งแต่เราอายุ 12 ปี (เราเริ่มสัมปัสและมีเซ้นซ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่อายุ 11 แล้ว)ตอนเดกๆ ที่บ้านเราจะสอนเสมอว่า “ของหล่นออกจากจาน จะหล่นที่ไหนก็แล้วแต่ ห้าม!! เก็บขึ้นมากินเด็ดขาด”
คำสอนนี้ เราจำได้ว่า ตั้งแต่จำความได้ ที่บ้านก็จะบอกแบบนี้มาโดยตลอด ซึ่งตอนเด็กๆเรายังไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไม เค้าถึงห้ามกัน เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้น เป็นช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง แม่ก็ทอดหมูสามชั้นหมักซีอิ๊ว ของโปรดเราตอนเด็กๆเลยแหละ (พูดแล้วหิว 555) ให้เรากินกับข้าวที่เหยาะด้วยซอสแม๊กกี้ ใส่กล่องข้าว เพื่อที่จะไปนอนบ้านเพื่อน ที่สนิทกันตั้งแต่สมัยอนุบาล มันชื่อ “บอล” พอแม่เราทำกับข้าวเสร็จแล้ว พ่อของบอลก็ขับมอไซด์มารับพอดี พอเราไปถึงบ้านมัน มันก็ชวนเราต่อจิกซอร์ดราก้อนบอล (เด็กสมัยนี้อาจไม่รู้จัก แต่สมัยก่อนนิยมมว๊ากกกก) แม่ของบอลก็เลยบอกว่า “งั้นเล่นไปด้วย กินข้าวไปด้วยเลย ถ้าไม่กอน จะเก็บจิกซอร์ขึ้น ให้กินข้าวก่อน” เรา 2 คนก็ขานรับ “คร้าบบบ”
ความขัดแย้งแห่งแดดอีสาน และสาเหตุที่เกิดขึ้น
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
เรื่องนี้เริ่มจากการที่สิงหนวัติกุมาร โอรสพระเจ้าเทวกาลแห่งนครไทยเทศ คือเมืองราชคฤห์ อพยพผู้คนออกจากเมืองราชคฤห์เมื่อ พ.ศ.๔๓๐ เดินทางไปถึงชัยภูมิที่เคยเป็นแคว้นสุวรรณโคมคำมาก่อนไม่ใกล้แม่น้ำโขงนัก เจ้าชายสิงหนวัติราชกุมารได้พบกับพันธุนาคราช ซึ่งพันธุนาคราชได้แนะนำให้เจ้าชายสิงหนวัติตั้งเมืองอยู่ในที่นั้น แล้วกลับวิสัยเป็นพระยานาคขุดแผ่นดินให้เป็นคูเมือง เจ้าชายสิงหนวัติจึงตั้งเมืองในที่นั้น และตั้งชื่อเมืองว่า เมืองนาคพันธุสิงหนวัตินคร จากนั้นอีก ๓ ปี เจ้าชายสิงหนาวัติก็ได้แผ่อำนาจปราบปรามหัวเม
ประวัติของผู้นำกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่คนปัจจุบัน: พันเอกเจ้ายอดศึก
66 หมู่1 ถนนโชคชัย4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10320